บริษัทตั้งเป้ารายได้ทั้งปี 2565 นี้โตไม่ต่ำกว่า 30% …เฉพาะรายได้ในครึ่งปีแรกนี้คาดว่าจะโต 42%YoY บริษัทประกอบธุรกิจเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์คอนกรีตอัดแรง ภายใต้เครื่องหมายการค้า “STEC” ได้แก่ เสาเข็มคอนกรีตอัดแรง เสาไฟฟ้าคอนกรีตอัดแรงและผลิตภัณฑ์คอนกรีตอัดแรงต่าง ๆ ให้แก่ภาครัฐบาลและเอกชน ตลอดจนการให้บริการขนส่งผลิตภัณฑ์และบริการตอกเสาเข็ม นอกจากนี้ บริษัทฯยังให้บริการรับเหมาก่อสร้างที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหลักของบริษัทฯ หรืองานก่อสร้างที่บริษัทฯมีผลงานและประสบการณ์ ได้แก่ งานติดตั้งระบบสายส่งไฟฟ้าแรงสูง 115 kV และงานออกแบบจัดหาพร้อมติดตั้งเคเบิลใยแก้วนำแสง
บริษัทฯมีโรงงานผลิตภัณฑ์คอนกรีตอัดแรง 9 แห่งกระจายในหลายภูมิภาค ซึ่งจะช่วยครอบคลุมพื้นที่การจำหน่าย โดยในธุรกิจนี้แหล่งผลิตสินค้าที่ตั้งที่ใกล้กับลูกค้าจะเป็นหัวใจสำคัญของการแข่งขันทางด้านราคา โดยบริษัทมีโรงงานผลิตกระจายอยู่ในหลายภูมิภาคของประเทศ ส่งผลให้บริษัทได้เปรียบในการแข่งขัน บริษัทมีโรงงานในหลายจังหวัด ได้แก่ จังหวัดสระบุรี จังหวัดชลบุรี จังหวัดสุโขทัย จังหวัดลาพูน จังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัดขอนแก่น จังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัดนครราชสีมา และมีโรงงานเสาเข็มสปัน 1 แห่ง ตั้งอยู่ที่จังหวัดสระบุรี ตอนนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างโรงงานแห่งที่ 10 ที่จังหวัดชลบุรีที่เป็นสาขา 2 เพื่อรองรับอุปสงค์การก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานของโครงการ EEC
บริษัทเข้ามาระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์เพื่อขยายธุรกิจเสาคอนกรีตอัดแรงและชำระคืนเงินกู้ระยะสั้น โดยบริษัทจะใช้เงิน 298 ล้านบาทในการขยายโรงงาน และ 220 ล้านจะคืนเงินกู้ โดยในส่วนของการขยายโรงงานคาดว่ากำลังการผลิตในปี 2565 จะเพิ่มขึ้นประมาณ 30% จากเดิมที่ 3.18 แสนลูกบาศก์เมตร/ปีในปี 2564 โดยแบ่งเป็นการก่อสร้างโรงงานชลบุรี 2 ที่คาดว่าจะเริ่มผลิตในเดือนมี.ค. ปีนี้ มีกำลังการผลิต 7.5 หมื่นลูกบาศก์เมตร/ปี และโรงงานสระบุรี(ดอนพุด) คาดว่าจะเริ่มผลิตได้ในไตรมาส 3 ปีนี้เช่นกัน กำลังการผลิต 2.2 หมื่นลูกบาศก์เมตร/ปี โดยปัจจุบันบริษัทมียอดการใช้กำลังการผลิต 75 80% และที่ผ่านมาการสร้างโรงงานของบริษัทสามารถคืนทุนได้เร็วใช้เวลาเพียง 3-4 ปี
บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตสูงไม่ต่ำกว่า30% ถือว่าเป็นเป้าหมายที่ค่อนข้างเติบโตสูง แต่เกิดจากการคาดการณ์ว่า โครงการเร่งด่วนในปีที่แล้วจะเป็นโครงการถูกผลักดันในปีนี้ เช่น โครงการรถไฟความเร็วสูงไทยจีน โครงการรถไฟทางคู่ สายเหนือ เด่นชัย เชียงราย เชียงของ และสายอีสาน บ้านไผ่ นครพนม โครงการรถไฟความเร็วสูงไทยจีน กรุงเทพ หนองคาย โดยรวมมีเป้าการเติบโตที่สูงแต่มีความเป็นไปได้
ล่าสุดมีงานในมือ 1,300 ล้านบาทและติดตามงานอีก 700 ล้านบาท โดยงานในมือแบ่งเป็น งานขายผลิตภัณฑ์คอนกรีตและบริการติดตั้ง 1,140 ล้านบาท และงานโครงการก่อสร้างสายส่งระบบ 115 kV 160 ล้านบาท ซึ่งในครึ่งปีแรกคาดว่าจะสามารถรับรู้งานได้ถึง 1,100 ล้านบาทหรือคิดเป็นการเติบโตของรายได้ถึง 42%YoY เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกของปี 2564 ที่มีรายได้เพียง 771.94 ล้านบาท ทำให้เราประเมินว่าเป้าหมายรายได้ของบริษัทที่ตั้งเป้าหมายไม่ต่ากว่า 30% มีความเป็นไปได้สูง
การประเมินในเบื้องต้น โดยใช้สมมติฐานรายได้ที่ 2,100 ล้านบาทคิดเป็นการเติบโต 30% จากรายได้ที่ประเมินไว้ในปี 2564 ที่ 1,615 ล้านบาท และอัตรากำไรที่อนุรักษ์นิยมไว้ก่อนประเมินอัตรากำไรขั้นต้นที่ 18.7% และอัตรากำไรสุทธิ 9.25% ประเมินกำไรในเบื้องต้นปี 2565 ที่ 194.25 ล้านบาท หากใช้ PE ที่ 15 เท่า จะสามารถประเมินราคาพื้นฐานได้ที่ 4.02 บาท ที่ราคาปัจจุบันยังมีส่วนต่างกว่า 32% เป็นหุ้น Explorer เราเริ่มต้น คำแนะนำ “ซื้อ”
ความเสี่ยง บริษัทมีความเสี่ยงจากจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายการลงทุนของภาครัฐและภาคเอกชน ความเสี่ยงจากการประมาณการต้นทุนคลาดเคลื่อนของงานโครงการรับเหมาก่อสร้าง ความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาวัตถุดิบ
นักวิเคราะห์ : พงศ์ภัทร สิริพิพัฒน์ : pongpats@th.dbs.com : Tel. 02 857 7825
|