STECH ลั่นรายได้ปี 66 นิวไฮ แตะ 2.25 พันล้านบาท หลังตุนแบ็กล็อก 1.2 พันล้านบาท และประมูลงานใหม่ เดินหน้าตั้งโรงงานผลิตลวด หนุนสร้างรายได้เพิ่ม 600-800 ล้านบาทต่อปีในอนาคต หวังลดต้นทุน-ขยายตลาดในและต่างประเทศ แย้มผลงานไตรมาส 1/66 สดใส หลังขยายกำลังการผลิต

นายวัฒน์ชัย มงคลศรีสวัสดิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามเทคนิคคอนกรีต จำกัด (มหาชน) หรือ STECH เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการในปี 66 คาดรายได้มีโอกาสทำสถิติสูงสุดใหม่ (New High) ที่ระดับ 2,250 ล้านบาท เติบโต 6% ซึ่งเป็นไปตามภาพรวมอุตสาหกรรมก่อสร้างที่ฟื้นตัว และสามารถบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

บริษัทมีงานในมือ (Backlog) มูลค่ารวม 1,200 ล้านบาท จะทยอยรับรู้ถึงปี 67 และปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการติดตามงานที่ได้ยื่นเสนอราคาไปแล้ว มูลค่ารวมประมาณ 1,000 ล้านบาท ซึ่งคาดจะได้รับงานในกลุ่มเสาเข็มที่ประมาณ 500 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 40% ของมูลค่างานทั้งหมด อีกทั้ง ยังพร้อมเข้าประมูลงานใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนการเติบโตในอนาคต

ปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายเป็นปีแห่งการลงต้นทุน โดยเน้นให้ความสำคัญกับการทำกำไร เบื้องต้นเชื่อว่าอัตราการเติบโตของกำไรในปีนี้จะเติบโตสูงกว่าการเติบโตของรายได้ โดยคาดอัตรากำไรสุทธิปี 66 น่าจะมีโอกาสทำได้ที่ระดับ 9-10% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 4.74% โดยการควบคุมต้นทุนคงที่ ซึ่งหลักๆ คือค่าแรงและเงินเดือนพนักงาน ขณะที่รายได้เพิ่มขึ้น ทำให้ความสามารถในการทำกำไรเพิ่มขึ้นด้วย

ทั้งนี้ยังได้เดินหน้าจัดตั้งโรงงานผลิตลวด ใช้งบลงทุนรวม 500 ล้านบาท ถ้ากำลังการผลิต 100% จะสร้างรายได้ราว 600-800 ล้านบาทต่อปี ปัจจุบันได้ตรวจรับเครื่องจักรจากประเทศอิตาลีแล้ว พร้อมจะเริ่มทดสอบการผลิตได้ในไตรมาส 3/66 เบื้องต้นจะนำมาใช้งานประมาณ 30% หรือราว 1,000 ต้นต่อเดือน

ส่วนอีก 70% จะนำออกจำหน่ายในไตรมาส 4/66 หรือไตรมาส 1/67 รวมถึงการส่งออกด้วย และในอนาคตจะเป็นธุรกิจดาวรุ่ง ใหม่ของบริษัท โดยจะถึงจุดคุ้มทุนภายใน 4-5 ปีจากนี้

จุดเด่นของโรงงานผลิตลวด  คือมีกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยการใช้เทคโนโลยีการผลิตรูปแบบใหม่ โดยไม่ต้องใช้บ่อน้ำกรด ซึ่งเป็นกรดไฮโดรคลอริคเข้มข้มในการกัดลวดโลหะให้สะอาดเหมือนในอดีต จึงส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

บริษัทยังพร้อมจัดจำหน่ายเสาเข็มขนาดเล็ก (Micropile) ให้กับลูกค้าในรูปแบบ B2C ซึ่งเป็นการจำหน่ายให้กับผู้รับเหมาก่อสร้าง หรือเจ้าของบ้านที่ต้องการซ่อมแซม ต่อเติมบ้านไม่ให้ทรุดตัว เพื่อเป็นช่องทางเพิ่มรายได้ใอีกทางหนึ่งด้วย 

สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/66 เติบโตดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการขยายกำลังการผลิต และขยายตลาดอย่างต่อเนื่องการก่อสร้างที่ฟื้นตัว และ STECH สามารถบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ