STECH ตุนแบ็กล็อก 1.2 พันล้านบาท มั่นใจดันรายได้-กำไรครึ่งปีหลังโตแกร่ง เตรียมเดินเครื่องโรงงานผลิตลวดเหล็กไตรมาส 4/66 และรอผลประมูลงานมูลค่ากว่า 1.4

นายทรงศักดิ์ ปยะวรรณรัตน์ องประธานเจ้าหน้าที่บหร บริษัท สยามเทคนิคคอนกรีต จำกัด (มหาชน) หรือ STECH เปิด เผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังของปี 66 มั่นใจว่าทั้งรายได้และกำไรจะดีขึ้นกว่าช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา โดยมีปัจจัย บวกจากการที่ STECH ต้นทุนการแข่งขันจะดีขึ้นเนื่องจากมีโรงงานผลิตลวดเหล็ก ซึ่งจะเริ่มการผลิตเชิงพานิชย์ได่ในไตรมาส 4/66 นี้ ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้มีความเข้มงวดและระมัตระวังการปล่อยเครดิตให้ลูกค้าสูงมาก จะเน้นขยายเฉพาะงานที่สามารถ เก็บเงินได้ตามกำหนดเท่านั้น

สำหรับ แนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 3/66 จะดีขึ้นกว่าช่วงตรมาส 2/66 ที่ผ่นมา และจะดีขึ้นต่อเนื่องถึงไตรมาส 4/66 ตามภาวะเศรษฐกิจที่ริ่มฟื้นตัว ประกอบกับการได้รัฐบาลชุดใหม่ที่ชัดเจน ซึ่งจะทำให้งานโครงสร้างพื้นฐานภายในประเทศออกมามาก ขึ้นด้วย

"ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา สภาพคล่องของประเทศค่อนข้างตึง เพราะประสบกับปัญหาหลายๆ อย่าง บริษัทฯ จึงต้องระมัดระวังในการ ขายของมากขึ้น ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรกรอบการรับเงินยาวขึ้น เพรลูกค้ขอยืดระยะเวลาในการจ่ายเงินออก ไปบ้าง จึงกระทบกับการรับรู้ รายได้อยู่บ้าง แต่เชื่อว่าในช่วงครึ่งปีหลังนี้น่าจะดีขึ้น จากการมีรัฐบาลที่ชัดเจน ก็คาดว่าจะเริ่มมีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่อเนื่อง ซึ่ง ก็จะส่งผลดีกับ STECH ด้วย เพราะบริษัทฯ ขายผลิตภัณฑ์ที่จำเป็นใช้สำหรับงานก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานอยู่แล้ว"นายทรงศักดิ์ กล่าว

ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทฯ มีงานในมือ (Backog) มูลค่ารวมประมาณ 1.2 พันล้านบาท ส่วนใหญ่จะทยอยรับรู้รายได่ในปี 66 และจะมีบาง ส่วนที่จะทยอยรับรู้ถึงปี 67 นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างการติดตามงานได้ยื่นประมูลไปแล้ว มูลค่ารวมประมาณ 1.4 พันล้านบาท นายทรงศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 66 ริษัทฯ เชื่อว่ารายได้รวมจะเติบโตขึ้นจากก่อนที่มีรายได้วม 2.1 พันล้านบาท แม่ในช่วง ครึ่งปีแรกของปีนี้จะได้รับผลกระทบจากภาวะเศษฐกิจอยู่บ้าง แต่เชื่อว่าในช่วงครึ่งปีหลังจะดีขึ้น และผลักดันภาพรวมของทั้งปีให้เติบ โตได้มากกว่าก่อน

อีกทั้งในช่วงที่ผ่านมา บริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างกรก่อสร้างโรงงานผลิตลวดเหล็ก ที่จังหวัดชลบุรี ขนาดกำลังการผลิตที่ 2 พันต้น/เดือน ซึ่งอยู่บนพื้นที่เดียวกันกับโรงงานคอนกรีตแห่งที่ 10 โดยจะเริ่มการผลิตเชิงพาณิชย์ได่ในไตรมาส 4/66 นี้ ซึ่งสินค้าใหม่ราว 30% จะ ใช้ในการพัฒนาโครงกรของบริษัทฯ ละที่เหลือดำเนินการขายให้กับลูกค้าส่วนต่างๆ อีกทางหนึ่ง เพื่อเข้าสู่การสร้าง New S-Curve ในธุรกิจใหม่ และการบริหารต้นทุนได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เนื่องจากต้นทุนคาลวดนับเป็นประมาณ 20-30% ของต้นทุนการผลิต และ จะกลายเป็นปัจจัยสนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต สร้างฐานกำไรให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

บริษัท สยามสตีลไวร้ จำกัด เป็นบริษัทลูกของ STECH ถือหุ้น 100% ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายลวดเหล็ก บริษัทฯ ได้มีการ ออกแบบโรงงาน และสั่งเครื่องจักรที่ทันสมัยจากประเทศอิตาลี ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่รักษาสิ่งแวดล้อม โดยเครื่องจักรที่ติดตั้งโรง งานผลิตลวดเหล็ก เป็นเครื่องจักรที่มีความทันสมัยที่สุดในขณะนี้ ซึ่งโดยปกติโรงงนผลิตลวดเหล็กโดยทั่วไปจะใช้น้ำกรดในการทำ ความสะอาดลวด แต่โรงงานผลิตลวดเหล็กของ STECH จะไม่ใช้ระบบน้ำกรด แต่จะใช้วิธีการดัดลวดแล้วใช้กระดาษทรายทำความ สะอาด ซึ่งเป็นโรงงานลวดเหล็กที่เป็นมิตรกับสั่งแวดล้อม ภายใต้ธีม "ลวดรักษ์โลก"